ถ้าพูดถึง Intravenous (IV) injection กับหมอหรือพยาบาล ก็คงนึกถึงวิธีการฉีดยารูปแบบหนึ่ง ที่ฉีดเข้าเส้นเลือด ไม่ใช่ทางกล้ามเนื้อ (Intramuscular หรือ IM) ต่อให้พูดว่าเป็น IV Infusion ก็คงนึกถึงการให้ยาที่ผสมในน้ำเกลือทางหลอดเลือดดำมากกว่าอย่างอื่น
แต่ถ้าลองพูดถึง IV Infusion หรือ IV Therapy หรือ IV Drip กับคนทั่วไป อาจจะได้คำตอบอีกแบบหนึ่ง เพราะคงนึกกันถึงการให้สารอาหารกลุ่มเกลือแร่และวิตามินทางหลอดเลือดเสียมากกว่า ลักษณะเดียวกับการให้น้ำเกลือ หรือถ้าจะระบุให้ชัดคือ Intravenous Nutrient Therapy หรือ Vitamin drip
—————————————————
ในปัจจุบัน สูตรการให้วิตามินมีหลากหลายสูตร แต่หนึ่งในสูตรต้นตำรับที่มีชื่อเสียงที่สุดเห็นจะเป็น Myers’ Cocktail ซึ่งตั้งชื่อตามนายแพทย์ John A. Myers ที่ใช้ IV Therapy เพื่อช่วยรักษาและบรรเทาอาการให้คนไข้ในหลายๆ โรค ต่อเนื่องยาวนานหลายสิบปี
แรกเริ่มเดิมที ไม่มีใครรู้สูตรของคุณหมอ Myers ที่ชัดเจน เพราะสูตรเหล่านี้มักเป็นความลับทางการแพทย์ของคุณหมอที่ค้นพบเท่านั้น หากไม่มีการถ่ายทอดหรือตีพิมพ์เผยแพร่ ก็ยากที่จะทราบได้ ยิ่งสูตรของคุณหมอ Myers นั้น ไม่มีแม้แต่ชื่อเรียกด้วยซ้ำ
ผู้ที่ทำให้สูตรนี้แพร่หลายกลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก คือ นายแพทย์ Alan R. Gaby ที่ตีพิมพ์บทความเผยแพร่ในวารสารการแพทย์ทางเลือก (Alternative Medicine Review) ปีค.ศ.2002 ซึ่งถือเป็นงานวิจัย Intravenous Nutrient Therapy ที่มีชื่อเสียงที่สุดด้วย
—————————————————
จุดเริ่มต้นของคุณหมอ Gaby อยู่ที่ปีค.ศ.1984 ที่คุณหมอ Myers ได้เสียชีวิตลง คนไข้จำนวนมากของคุณหมอ Myers พยายามหาผู้ที่สามารถให้การรักษาเช่นเดียวกับที่คุณหมอ Myers เคยให้ได้ จนกระทั่งมาพบกับคุณหมอ Gaby ซึ่งใช้วิธีการ IV Nutrient Therapy อยู่แล้ว
จากข้อมูลที่ได้จากคนไข้และการค้นคว้าเพิ่มเติม คุณหมอ Gaby ได้สูตรผสมวิตามินและเกลือแร่ที่คาดว่าใกล้เคียงกับที่คุณหมอ Myers ใช้ เมื่อตีพิมพ์เผยแพร่บทความดังกล่าว คุณหมอ Gaby จึงได้ตั้งชื่อให้สูตรดังกล่าวว่า ‘Myers’ Cocktail’ เพื่อเป็นการให้เกียรติต่อคุณหมอ Myers ผู้ล่วงลับ (โดยที่ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แม้จะอาศัยในเมืองเดียวกันก็ตาม)
—————————————————
ส่วนหนึ่งที่ทำให้สูตรดังกล่าวมีชื่อเสียง เนื่องจากสามารถบรรเทาอาการหรือโรคได้ และไม่ใช่เพียงโรคเดียวเท่านั้น จากการติดตามดูผลการรักษาคนไข้เกือบ 1,000 ราย เป็นเวลา 11 ปี หรือคิดเป็นการให้ IV สูตรดังกล่าวจำนวน 15,000 ครั้ง คุณหมอ Gaby ได้รายงานว่า คนไข้มีการตอบสนองต่อการรักษาและอาการดีขึ้น ทั้งอาการหอบหืด ไมเกรนเฉียบพลัน อ่อนเพลียที่รวมถึงกลุ่มอาการเพลียเรื้อรัง (Chronic fatigue syndrome) ด้วย กล้ามเนื้อกระตุกเฉียบพลัน ปวดกล้ามเนื้อเนื่องจากมีพังผืดเกาะ (Fibromyalgia) การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ไซนัสอักเสบเรื้อรัง ภูมิแพ้
หรือแม้แต่ผู้ที่มีอาการเจ็บหน้าอก หัวใจล้มเหลว ไฮเปอร์ไทรอยด์ ลมพิษเรื้อรัง อาการปวดประจำเดือน หรืออาการซึมเศร้า เมื่อได้ให้ Myers’ Cocktail อย่างต่อเนื่อง ก็พบว่าดีขึ้น อาการดังกล่าวลดลง
—————————————————
อย่างไรก็ตาม ผลงานที่ตีพิมพ์เผยแพร่ของคุณหมอ Gaby เป็น Clinical test ที่ดูผลจากคนไข้ที่มารับการรักษาโดยตรง แต่ไม่ใช่งานวิจัยทางการแพทย์ที่ทดลองกับผู้มีอาการแต่ละอาการ โดยแยกเป็นกลุ่มที่ได้รับวิตามิน Myers Cocktail จริง และที่ได้วิตามินหลอก (Placebo) เพื่อดูผลเปรียบเทียบกัน
แต่ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะหาบริษัทยา หรือบริษัทผลิตวิตามินรายใดยอมทุ่มเงินเพื่อวิจัยวิตามิน เนื่องจากไม่ใช่สินค้าที่สามารถจดสิทธิบัตรได้ ผลการให้ Myers’ Cocktail จึงไม่มีงานวิจัยยืนยันผลการรักษาอย่างเป็นทางการ
—————————————————
หลังจากบทความของคุณหมอ Gaby เหตุผลอีกอย่างที่น่าจะมีส่วนส่งเสริม IV Nutrient Therapy ให้ยิ่งแพร่หลาย (อย่างน้อยก็ในสหรัฐอเมริกา) เนื่องจาก แม้ว่าการแพทย์ที่สหรัฐอเมริกาจะก้าวหน้ามาก แต่ชาวอเมริกันกลับมีปัญหาเรื่องการขาดแร่ธาตุและวิตามิน ซึ่งเป็นกลุ่มสารอาหารรอง (Micronutrients)
จากการสำรวจทั่วประเทศที่จัดทำขึ้นระหว่างปีค.ศ.2003-2006 โดยสำรวจสารอาหารรอง 19 ชนิด ในคนอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 1.6 หมื่นราย พบว่า ระดับวิตามินและเกลือแร่สำคัญต่ำกว่าเกณฑ์ ทั้งวิตามิน B6 วิตามิน B3 แร่ธาตุทองแดง ซีลีเนียม ไปจนถึงวิตามิน A, C, D, E ซึ่งอาจไม่ได้ส่งผลต่อชีวิตประจำวันอย่างเด่นชัดนัก แต่อาจส่งผลต่อร่างกาย ทำให้เกิดอาการอักเสบง่ายขึ้น แผลหายช้าลง ภูมิคุ้มกันลดลง หรืออาการที่เป็นกลายเป็นโรคเรื้อรังง่ายขึ้น การให้ IV จึงเข้ามาเสริมสารอาหารที่ขาดไป
หรือบางรายมีปัญหาเรื่องการย่อยหรือการดูดซึมวิตามินหรือเกลือแร่จากการรับประทาน การให้ IV ที่ไม่ต้องผ่านระบบการย่อย และดูดซึมเข้ากระแสเลือดโดยตรงจึงเป็นทางเลือกให้ได้
อีกทั้งชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ เคร่งเครียด การรับประทานอาหารแปรรูปมีมากขึ้น (ขณะที่การรักษาสมดุลในการรับประทานและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ) ทำให้คนมองหาทางเลือกที่ไม่ใช่ยา แต่ช่วยรักษาร่างกายให้คงความแข็งแรงไว้ได้ และยังให้โดยแพทย์ ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยได้
—————————————————
ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม Vitamin drip กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
จากการให้วิตามินและเกลือแร่ขั้นพื้นฐาน ความต้องการที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พัฒนาต่อไปอีกหลายสูตร แม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้เจ็บป่วย ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ ก็มีสูตรที่ตอบสนองได้
คนดังหลายคนหันใช้การแพทย์ทางเลือกดังกล่าว ไล่มาตั้งแต่ฝั่งนักร้องนักแสดงฝั่งฮอลลีวู้ด ทั้ง Brad Pitt, Rihanna, Miley Cyrus, Chrissy Teigen นางแบบชาวอังกฤษ Cara Delevigne นางแบบชาวออสซี่ Miranda Kerr หรือแม้แต่ Meghan Markle พระชายาของเจ้าชายแฮร์รี่ ก็ฉีด IV จนกระทั่ง คนอังกฤษจำนวนไม่น้อยรู้จักสูตร ‘Magic Markle’
หาก IV Nutrient Therapy ป้องกันไม่ให้เกิดอาการร้ายแรง ลดค่ารักษาทางการแพทย์ ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ประโยชน์แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ที่เหลือถ้าผู้ใดสนใจ ก็เลือกแพทย์ที่จะฉีด และเลือกสูตรที่เหมาะกับตนเอง